งานเครื่องไม้จำหลัก
งานเครื่องไม้จำหลัก คือ งานศิลปกรรมที่กระทำบนเนื้อไม้ ด้วยวิธีการสลัก ฉลัก หรือจำหลัก ให้เป็นรูปร่าง ลวดลาย ด้วยเครื่องมือต่างๆ เป็นงานประณีตศิลป์อย่างหนึ่งที่ช่างผู้ดำเนินงานต้องมีความรู้ความชำนาญเฉพาะตัว เพราะต้องใช้ความประณีตในการถ่ายทอดรูปแบบและลวดลายลงบนวัสดุที่เป็นไม้ ด้วยการใช้เครื่องมือที่ทำจากโลหะในการแกะสลัก ดังนั้น ช่างจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในลวดลายต่างๆ พอสมควร จึงจะสามารถทำงานให้เกิดความงดงามถูกต้องได้ ในปัจจุบันมักเรียกวิธีการทำงานแบบนี้ว่า การแกะสลัก และเรียกช่างผู้ทำงานด้านนี้ว่า ช่างแกะสลัก เรียกงานศิลปกรรมที่เกี่ยวกับการแกะสลักไม้นี้ว่าเครื่องไม้จำหลัก
งานจำหลักไม้นั้นเป็นงานที่คนไทยทำกันมาแต่โบราณกาล เพราะประเทศไทยเป็นดินแดนที่อยู่ในเขตร้อน ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้นานาพรรณ ไม้จึงเป็นวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติ หาได้ง่ายและใช้ประโยชนได้อย่างมากมาย นับตั้งแต่ใช้สร้างบ้านเรือน เครื่องเรือน เครื่องใช้ต่างๆ โดยทั่วไปการแสดงออกซึ่งความรู้สึกทางศิลปะของคนเรานั้นะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของธรรมชาติอันก่อให้เกิดคุณลักษณะของศิลปะขึ้น ดังนั้น ศิลปินไทยแต่โบราณจึงได้เกิดความประทับใจจากสิ่งแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ดังกล่าว และได้สะท้อนความประทับใจเช่นนั้นออกมาปรากฏอยู่ในไม้จำหลักตลอดจนลวดลายประเภทอื่นๆ ด้วยเหตุนี้งานเครื่องไม้จำหลักจึงเป็นมรดกตกทอด ที่เกี่ยวข้องอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยตลอดมางานศิลปกรรมจำหลักไม้หรือเครื่องไม้จำหลักที่เกี่ยวข้อง อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่าง อาทิ งานจำหลักไม้ส่วนประกอบประดับตกแต่งสถาปัตยกรรม เช่น บานประตู หน้าบัน คันทวย ของบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร ตลอดจนปราสาทราชวัง และเป็นลวดลายประดับสิ่งต่างๆ เช่น พระที่นั่ง บุษบกมาลา พระราชพาหนะ ธรรมาสน์ อาสนะ สังเค็ด สัตภัณฑ์ และเครื่องเรือนต่างๆ ฯลฯ ตลอดจนจำหลักเป็นประติมากรรม เช่น พระพุทธรูป เทวรูปไม้อีกด้วยพัฒนาการของงานเครื่องไม้จำหลักงานศิลปกรรมสลักไม้จะเริ่มต้นปรากฏมีมาตั้งแต่สมัยใดนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะไม้เป็นวัสดุที่ไม่มีความคงทน มักผุพังเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ดังนั้น จึงมีหลักฐานเหลืออยู่เฉพาะในส่วนที่มีอายุไม่มากนัก แต่เข้าใจว่าคนไทยคงรู้จักการสร้างงานศิลปกรรมด้วยไม้เป็นเวลานานแล้ว อย่างน้อยก็นับตั้งแต่สมัยสุโขทัยและสมัยสุพรรณภูมิเป็นต้นมา แม้ว่าหลักฐานที่เหลืออยู่ในปัจจุบันจะมีอยู่น้อยมาก
ตัวอย่างผลงานบางชิ้นที่เชื่อว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงเวลานี้ เช่น บานประตูไม้จำหลัก ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย และพระพุทธบาทจำหลักไม้ วัดพระรูป จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น แต่จากซากโบราณสถานที่เป็น โบสถ์ วิหาร และอาคารทางศาสนาอื่นๆซึ่งได้ปรากฏร่องรอยให้เห็นว่าส่วนหนึ่งเป็นงานเครื่องไม้เชื่อได้ว่างานจำหลักไม้เป็นเครื่องประดับตกแต่งเพื่อความสวยงามให้กับอาคารต่างๆเหล่านี้ด้วยคงมีเป็นอย่างมากด้วยอย่างไรก็ตามงานสลักไม้หรือเครื่องไม้จำหลัก จะได้รับความนิยมและมีความเจริญเป็นอย่างมากนับตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา งานศิลปกรรมสลักไม้ในสมัยอยุธยาที่มีหลักฐานเหลือมาอยู่จนทุกวันนี้ จะได้แก่ งานประเภทประติมากรรมสลักไม้เป็นพระพุทธรูปแบบต่างๆ และงานประเภทลวดลายประดับตกแต่งหน้าบันบานประตู หน้าต่าง ตู้พระธรรม ธรรมาสน์ สังเค็ด โขนเรือ เป็นต้น
ขอบคุณขอมูลจาก : http://oknation.nationtv.tv/blog/phaen/2007/08/25/entry-1
เสนอ
คุณครูอมราวดี บุญเสมียน
ด.ช.ภากร มีผิวหอม เลขที่11
ด.ช.ประพัฒน์พงศ์ ประภาสะวัต เลขที่8
ด.ช.กฤณกร จันทร์เอม เลขที่1
ด.ช.ภูวเดช แถวจันทร์ เลขที่13
ด.ช.สิทธิศักดิ์ ไพรงาม เลขที่16
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ห้อง17 โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง
งานเครื่องไม้จำหลัก คือ งานศิลปกรรมที่กระทำบนเนื้อไม้ ด้วยวิธีการสลัก ฉลัก หรือจำหลัก ให้เป็นรูปร่าง ลวดลาย ด้วยเครื่องมือต่างๆ เป็นงานประณีตศิลป์อย่างหนึ่งที่ช่างผู้ดำเนินงานต้องมีความรู้ความชำนาญเฉพาะตัว เพราะต้องใช้ความประณีตในการถ่ายทอดรูปแบบและลวดลายลงบนวัสดุที่เป็นไม้ ด้วยการใช้เครื่องมือที่ทำจากโลหะในการแกะสลัก ดังนั้น ช่างจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในลวดลายต่างๆ พอสมควร จึงจะสามารถทำงานให้เกิดความงดงามถูกต้องได้ ในปัจจุบันมักเรียกวิธีการทำงานแบบนี้ว่า การแกะสลัก และเรียกช่างผู้ทำงานด้านนี้ว่า ช่างแกะสลัก เรียกงานศิลปกรรมที่เกี่ยวกับการแกะสลักไม้นี้ว่าเครื่องไม้จำหลัก
งานจำหลักไม้นั้นเป็นงานที่คนไทยทำกันมาแต่โบราณกาล เพราะประเทศไทยเป็นดินแดนที่อยู่ในเขตร้อน ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้นานาพรรณ ไม้จึงเป็นวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติ หาได้ง่ายและใช้ประโยชนได้อย่างมากมาย นับตั้งแต่ใช้สร้างบ้านเรือน เครื่องเรือน เครื่องใช้ต่างๆ โดยทั่วไปการแสดงออกซึ่งความรู้สึกทางศิลปะของคนเรานั้นะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของธรรมชาติอันก่อให้เกิดคุณลักษณะของศิลปะขึ้น ดังนั้น ศิลปินไทยแต่โบราณจึงได้เกิดความประทับใจจากสิ่งแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ดังกล่าว และได้สะท้อนความประทับใจเช่นนั้นออกมาปรากฏอยู่ในไม้จำหลักตลอดจนลวดลายประเภทอื่นๆ ด้วยเหตุนี้งานเครื่องไม้จำหลักจึงเป็นมรดกตกทอด ที่เกี่ยวข้องอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยตลอดมางานศิลปกรรมจำหลักไม้หรือเครื่องไม้จำหลักที่เกี่ยวข้อง อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่าง อาทิ งานจำหลักไม้ส่วนประกอบประดับตกแต่งสถาปัตยกรรม เช่น บานประตู หน้าบัน คันทวย ของบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร ตลอดจนปราสาทราชวัง และเป็นลวดลายประดับสิ่งต่างๆ เช่น พระที่นั่ง บุษบกมาลา พระราชพาหนะ ธรรมาสน์ อาสนะ สังเค็ด สัตภัณฑ์ และเครื่องเรือนต่างๆ ฯลฯ ตลอดจนจำหลักเป็นประติมากรรม เช่น พระพุทธรูป เทวรูปไม้อีกด้วยพัฒนาการของงานเครื่องไม้จำหลักงานศิลปกรรมสลักไม้จะเริ่มต้นปรากฏมีมาตั้งแต่สมัยใดนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะไม้เป็นวัสดุที่ไม่มีความคงทน มักผุพังเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ดังนั้น จึงมีหลักฐานเหลืออยู่เฉพาะในส่วนที่มีอายุไม่มากนัก แต่เข้าใจว่าคนไทยคงรู้จักการสร้างงานศิลปกรรมด้วยไม้เป็นเวลานานแล้ว อย่างน้อยก็นับตั้งแต่สมัยสุโขทัยและสมัยสุพรรณภูมิเป็นต้นมา แม้ว่าหลักฐานที่เหลืออยู่ในปัจจุบันจะมีอยู่น้อยมาก
ตัวอย่างผลงานบางชิ้นที่เชื่อว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงเวลานี้ เช่น บานประตูไม้จำหลัก ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย และพระพุทธบาทจำหลักไม้ วัดพระรูป จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น แต่จากซากโบราณสถานที่เป็น โบสถ์ วิหาร และอาคารทางศาสนาอื่นๆซึ่งได้ปรากฏร่องรอยให้เห็นว่าส่วนหนึ่งเป็นงานเครื่องไม้เชื่อได้ว่างานจำหลักไม้เป็นเครื่องประดับตกแต่งเพื่อความสวยงามให้กับอาคารต่างๆเหล่านี้ด้วยคงมีเป็นอย่างมากด้วยอย่างไรก็ตามงานสลักไม้หรือเครื่องไม้จำหลัก จะได้รับความนิยมและมีความเจริญเป็นอย่างมากนับตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา งานศิลปกรรมสลักไม้ในสมัยอยุธยาที่มีหลักฐานเหลือมาอยู่จนทุกวันนี้ จะได้แก่ งานประเภทประติมากรรมสลักไม้เป็นพระพุทธรูปแบบต่างๆ และงานประเภทลวดลายประดับตกแต่งหน้าบันบานประตู หน้าต่าง ตู้พระธรรม ธรรมาสน์ สังเค็ด โขนเรือ เป็นต้น
ขอบคุณขอมูลจาก : http://oknation.nationtv.tv/blog/phaen/2007/08/25/entry-1
เสนอ
คุณครูอมราวดี บุญเสมียน
ด.ช.ภากร มีผิวหอม เลขที่11
ด.ช.ประพัฒน์พงศ์ ประภาสะวัต เลขที่8
ด.ช.กฤณกร จันทร์เอม เลขที่1 ด.ช.ภูวเดช แถวจันทร์ เลขที่13 ด.ช.สิทธิศักดิ์ ไพรงาม เลขที่16
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ห้อง17 โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง
ด.ช.กฤณกร จันทร์เอม เลขที่1 ด.ช.ภูวเดช แถวจันทร์ เลขที่13 ด.ช.สิทธิศักดิ์ ไพรงาม เลขที่16
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ห้อง17 โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น